วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

ผัดปูทะเล
คุณประโยชน์ของอาหารทะเล ที่มีต่อสุขภาพ ซึ่งได้แก่มีไขมันต่ำ มีโปรตีนสูง และเป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมัน Omega-3 มีแคลเซียมเป็นเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการเพื่อรักษาความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก

คื่นช่าย
สรรพคุณ อันได้แก่ แก้อักเสบทั่วไป ลดความดันเลือด แก้ไอ แก้ประจำเดือนไม่ปกติ ตับอักเสบ และฤทธิ์ช่วยบำรุงสมอง ช่วยเรื่องความจำได้ด้วยนะคะ คราวนี้เราควรจะ หันมากินคื่นช่ายเยอะๆนะคะ ความจำจะได้ดีค่ะ โดยเฉพาะเด็กๆนะจ๊ะควรกินเยอะๆค่ะ จะได้เรียนเก่งๆไงคะ

เครื่องปรุง
ปูทะเล (เลือกเอาตัวผู้เนื้อจะแน่น) 3 ตัว
คื่นช่าย(หั่นเป็นท่อนๆ) 100 กรัม
ต้นหอม(หั่นเป็นท่อนๆ) 50 กรัม
หัวหอมใหญ่ 1 หัว
แครอทหั่น 50 กรัม
กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนชา
พริกสดสีแดง(ซอยตามยาว) 3 เม็ด
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา


วิธีเลือกปู

เลือกปูตัวผู้ สักเกต โดยหงายท้องปูดู จะมีลักษณะนี้ ตรงท้องจะเป็นสามเหลี่ยม พอกดจะแน่นๆ ขาและก้ามไม่หลุดออกจากกัน ไม่มีกลิ่นคาวจัด เมื่อทำความสะอาดปูเสร็จแล้วหั่นเป็น ท่อนพอคำ ระวังอย่าให้ มันปูหกและนำไขไก่ตอกใส่ในเนื้อปูเพื่อให้มันปูเกาะแน่นติดกับเนื้อปู


วิธีทำ 
นำกระทะตั่งไปปานกลาง เอาน้ำมันใส่พอร้อนใส่กระเทียม เจียวพอหอมใส่ปูพร้อมไข่ไก่ที่ตอกเตรียมไว้ ค่อยๆๆผักเบาๆ ใส่น้ำมันหอย +น้ำตาล +น้ำปลา +พริกไท + ชิมรส ใส่พริกซอย +หอมใหญ่ +แครอท +คื่นช่าย +ต้นหอม ตักรับประทานได้ 4-5 ที่
แกงเลียงปลาย่าง
ประโยชน์ของตำลึง(ส่วนผสมหนึ่งในแกงเลียงของเรา)
นอกจากจะปลูกเป็น "ผักสวนครัว รั้วกินได้" ให้เรานำมาปรุงอาหารรับประทานได้หลากหลาย ตำลึงยังมีคุณสมบัติในเชิงยาสมุนไพร ทั้งในส่วนของใบ ยอด ผลอ่อน ราก
การรับประทานตำลึงเป็นประจำนอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินเอ ซึ่งช่วยในการบำรุงรักษาสายตาแล้ว ตำลึงยังมี ฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเสริมส่งการมีสุขภาพ โดยปกติตำลึง หรือที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคว่า "ผักแคบ" (ภาคเหนือ) "แคเด๊าะ" (กะเหรี่ยง) หรือ "ผักสี่บาท" (ภาคกลางบางท้องถิ่น) มีฤทธิ์ในการช่วยย่อยแป้งได้ดีอยู่แล้ว จึงเหมาะในการนำมารับประทานเป็นประจำ เพื่อช่วยลดอาการแน่นท้อง ท้องอืด อันเนื่องจากอาหารไม่ย่อย
นอกจากนี้ ใบตำลึงยังมีสรรพคุณสำคัญช่วยในการขับสารพิษตกค้างที่เกิดจากการรับประทานอาหารออกจากร่างกาย ทั้งในส่วนของลำไส้ หรือกระเพาะอาหารได้ด้วย
แกงเลียงอาหารที่มีรสชาติเฉพาะตัว อร่อยเผ็ดร้อนพริกไทย หอมกลิ่นสมุนไพรจากพืชผักหลายอย่าง มีประโยชน์ในการขับพิษ ไข้เป็นอย่างดี และทางการแพทย์ยังบอกว่า รับประทานแกงเลียงบ่อยยังช่วยยั้งการก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ และสร้างน้ำนมในแม่ที่ให้นมลูกได้ดีอีกจ๊ะ
แกงเลียง เป็นแกงที่ประกอบด้วยน้ำพริก ผัก เนื้อสัตว์ น้ำแกงและเครื่องปรุงรส น้ำพริกแกงเลียงจะแปลกกว่าน้ำพริกแกงชนิดอื่นๆ เพราะมีพริกไทย หัวหอม กะปิ กุ้งแห้ง ปลาย่างหรือปลากรอบ น้ำแกงมีลักษณะข้น ผักที่นิยมใส่ที่สามารถบอกลักษณะว่าเป็นแกงเลียง คือ ใบแมงลักมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน นอกจากนั้นยังมีผักเช่น ตำลึง ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน หัวปลี บวบ ผักหวาน ฯลฯ

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554


องุ่นผลไม้เพื่อสุขภาพ


องุ่น....ผลไม้แสนอร่อยที่หลายคนในครอบครัวชื่นชอบ ซึ่งนอกจากจะมีรสชาติดีและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบ ผลสดและแห้งแล้ว คุณทราบไหมว่า องุ่นยังมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและความงามของเราด้วย

ในผลองุ่นมีวิตามินและสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะที่เปลือกและเมล็ด อย่างที่เราเคยได้ยินถึงการสกัดน้ำมันจากเมล็ดองุ่นมาเป็นส่วนผสมในครีม บำรุงผิวหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ น้ำมันนี้ช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการจับตัวของก้อนเลือด และลดโคเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (ไขมันไม่ดี) จึงช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบเลือดและหัวใจได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ส่วน วิตามินต่างๆ ที่พบในองุ่นนั้นก็มีมากมายหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และเกลือแร่ชนิดต่างๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นได้เร็ว ส่วนหนึ่งเพราะน้ำตาลในองุ่นเป็น น้ำตาลที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เลย จึงช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกาย และกระตุ้นให้ตับทำหน้าที่ฟอกเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีผลจากการ วิจัยของนักวิทยาศาสตร์แห่งเมืองนิวยอร์กพบว่า ในองุ่นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า Polyphenols ซึ่งส่วนใหญ่เราจะสามารถบริโภคได้ในรูปของน้ำองุ่นหรือไวน์แดง สาร Polyphenols นี้มีส่วนช่วยให้คนเรามีอายุสมองที่ยาวนานขึ้นและแข็งแรง ทำให้สามารถทำงานและจดจำสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดีถึงแม้จะอายุมากแล้วก็ตาม

ประโยชน์ จากองุ่นนั้นไม่เพียงจะได้จากการรับประทานองุ่นสด องุ่นแห้ง หรือน้ำองุ่นคั้นสด 100% แล้ว ผลและน้ำองุ่นสดยังสามารถนำมาใช้บำรุงผิวหน้าและเส้นผมได้ด้วย อย่างสูตรบำรุงผิวหน้าให้เปล่งปลั่งชุ่มชื้นแบบง่ายๆ โดยนำองุ่นแดงหรือม่วงทั้งเปลือก ½ ถ้วย ผสมน้ำแตงกวาสด 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ปั่นรวมกันแล้วนำมาทาทั่วผิวหน้า (เว้นรอบดวงตา) ทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้ว ล้างออก ผิวหน้าจะชุ่มชื้นขึ้นและไม่แห้งกร้าน
ส่วน สูตรบำรุงเส้นผมให้ใช้น้ำองุ่นแดงหรือองุ่นม่วงคั้นสด 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับแชมพู สระผม โดยพักไว้หลังสระประมาณ 5 นาทีแล้วจึงล้างฟองออกให้สะอาด จะช่วยให้เส้นผมนุ่มและเป็น เงางาม
การรับประทานองุ่นให้ได้ ประโยชน์มากที่สุดนั้น ความจริงสามารถรับประทานได้ทั้งเปลือกและเมล็ด อย่างที่บอกว่าสารอาหารที่มีคุณค่านั้นอยู่ที่เปลือกและเมล็ดมากกว่าเนื้อ องุ่นเสียอีก แต่ถ้าอยากรับประทานทั้งเมล็ดให้ง่ายขึ้น อาจจะทำเป็นน้ำองุ่นปั่นสดๆ ดื่มก็ได้ค่ะ


น้ำมะเขือเทศ เครื่องดื่มสุขภาพ

น้ำมะเขือเทศ (TOMATO)
มะเขือเทศเป็นผักที่มีผลสีแดง รสหวานอมเปรี้ยวมีคุณค่าทางอาหารสูงและมีสรรพคุณทางยา คือ เมื่อรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำช่วยบรรเทาอาการตับอักเสบ แผลเปื่อย โรคหัวใจ ความดันโลหัตสูงและเส้นเลือดในสมองแตก รักษาแผลไฟไหม้ ท้องร่วง โรคหืดหอบ และโรคภูมิแพ้ตามผิวหนัง ช่วยให้หัวใจและความดันโลหิตทำงานเป็นปกติ
นอกจากนี้น้ำมะเขือเทศช่วยชำระล้างมลพิษในปอด ช่วยรักษาโรคตา ป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระเพราะเป็นเหมือนยาระบายอ่อน ๆ ในด้านความงามมะเขือเทศยังช่วยบำรุงผิว ลดริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน ช่วยใหระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น มีสารที่สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ปาก และที่สำคัญช่วยต้านโรคมะเร็ง

ส่วนผสม

- มะเขือเทศสด 4 - 5 ลูก
- เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ

นำมะเขือเทศสดมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ใส่เครื่องคั้นน้ำผลไม้แยกกากา แยกน้ำ ได้น้ำมะเขือเทศสดเติมเกลือเล็กน้อยเพิ่มรสชาติ ควรดื่มทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียคุณค่าของวิตามิน หากต้องการดื่มน้ำมะเขือเทศเย็น ๆ ให้นำมะเขือเทศไปแช่เย็นประมาณ 20 นาที จังนำมาคั้นน้ำผลไม้แยกกากแยกน้ำ ก็จะได้น้ำมะเขือเทศเย็นชื่นใจไว้ดื่ม โดยไม่เสียคุณค่าของวิตามิน
** น้ำมะเขือเทศแก้วนี้ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งทวารหนัก

คุณค่าทางอาหารของมะเขือเทศ 1 ผล

วิตามินเค ช่วยทำให้เลือดแข็งตัว บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยรักษาสุขภาพสตรีวัยทอง บรรเทาอาการอาเจียนในหญิงมีครรภ์
วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น รักษาสุขภาพผิว รักษาสิว ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ
วิตามินซี ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้แผลหายเร็ว ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
วิตามินอี ป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันโรค บรรเทาอาการต้อกระจก บรรเทาอาการโรคกระดูกและข้ออักเสบ
แมกนีเซียม ช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน ป้องกันโรคหัวในล้มเหลวและโรคหัวใจ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
สารไลโคพีน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดโอกาสความเสียงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้มากถึง 21%
แคลเซียม ช่วยดูดซึมวิตามินดีทำให้กระดูกแข็งแรง
ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
โพแสทเซียม ช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท บรรเทาอาการตะคริว ลดความดันโลหิตสูง
เบต้าแคโรทีน ช่วยแก้กระหายน้ำ ต้านมะเร็ง การทำงานของระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก บำรุงโลหิต ระบบประสาท และระบบสายตา
เหล็ก ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ป้องกันโรคโลหิตจาง ลดการปวดประจำเดือน
เส้นใยอาหาร ส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย


ส้มตำสับปะรด เมนูเพื่อสุขภาพอีกหนึ่งเมนู แม้จะเพื่อสุขภาพแต่รสชาตินั้นแซบจริงๆ สับปะรดที่หวานอมเปรี้ยวเอามารวมกับน้ำส้มตำรสเด็ด ได้ออกมาเป็นอาหารจานสุขภาพที่รสชาติไม่จำเจ สำหรับใครที่ลดน้ำหนักไม่ควรพลาดเมนูนี้



วิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ กินไขมัน เพื่อลดไขมัน

สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก วันนี้เรามีวิธีการลดน้ำหนักแบบที่ว่า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง คือ การกินไขมันเพื่อลดไขมัน ... 
สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ด้วยวิธีธรรมชาติแบบง่าย วันนี้เรามีวิธีการลดน้ำหนักแบบที่ว่า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง คือ การกินไขมันเพื่อลดไขมัน ... แม้การลดความอ้วนด้วยวิธีควบคุมอาหารจะมีมากมาย   แต่การกินน้ำมันมะพร้าวเพื่อลดน้ำหนัก พบว่าจะทำให้น้ำหนักลดลงได้ 4-5 กิโลกรัม ภายใน เดือน คงสนใจกันแล้วใช่ไหมค่ะว่า จะทำให้น้ำหนักลดได้อย่างไร เรามาลองศึกษากันค่ะ


น้ำมันมะพร้าวลดอ้วน
  น้ำมันมะพร้าวจัดเป็นน้ำมันพืชชนิดแรกๆ ที่เรารู้จัก และนำมาใช้ปรุงอาหารหรือบำรุงความงาม แต่ภายหลังนิยมบริโภคน้อยลง เพราะมีกรดไขมันอิ่มตัวสูงทำให้อ้วนและเกิดไขมันสะสม
ส่วนน้ำมันมะพร้าวที่กินเพื่อลดความอ้วน ที่สกัดโดยใช้ความร้อน แต่เป็นน้ำมันมะพร้าวที่เรียกว่า Virgin coconut oil ซึ่งผ่านกระบวนการหีบเย็น คือ ใช้วิธีการปั่น บีบน้ำมันออกมาโดยตรง หรือการแยกหมักด้วยแบคทีเรียเพื่อแยกน้ำมัน และด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างนี้เองที่ทำให้สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าว สองชนิดแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยชนิดใหม่จะช่วยลดความอ้วนและไม่ตกค้างในร่างกาย
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์มีองค์ประกอบของกรดไขมัน ที่มีประโยชน์อยู่มาก โดยเฉพาะกรดไขมันความยาวขนาดกลาง (มีเดียมเชน ไตรกลีเซอไรด์) ซึ่งเมื่อกินเข้าไป จะมีปฏิกิริยาคล้ายน้ำตาล คือ จะถูกส่งผ่านกระแสเลือดโดยตรง จึงเข้าสู่เซลล์และสลายตัวได้เร็ว แตกต่างจากน้ำมันพืชชนิดอื่น นอกจากนี้ยังพบสารไมโตรนิวเตรียนบางตัวที่อยู่ในมะพร้าว เช่น กลุ่มฮอร์โมนพืช ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

อาหาร 8 ชนิดที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

1.นมนมเป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมแคลเซียมร่างกายของผู้หญิงเ ราต้องการแคลเซียมไปใช้มากกว่าผู้ชายในการดูแลกระดูก ให้แข็งแรง (โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ ช่วงให้นมแม่ หลังวัยหมดประจำเดือน) และเพื่อไม่เกิดปัญหากระดูกพรุนในภายหลัง จึงมีคำแนะนำให้ผู้หญิงดื่มนมเป็นประจำวันละ 2 แก้ว (เลือกแบบจืดชนิด low fat ) ทั้งนี้ก็เพื่อกระดูกที่แข็งแรงนั่นเองค่ะ


2.โยเกิร์ต
ในโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร ่างกายของเราทำงานอย่างสมบูรณ์ขึ้นด้วย แต่ที่สำคัญคือจะต้องเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่เต ิมผลไม้เชื่อมหรือน้ำตาลลงไป เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ความหวานยังไปทำลายจุลินทรีย์เสียหมด คุณค่าที่ต้องการเลยหายวับไปอย่างน่าเสียดาย


3.น้ำมันมะกอก
เป็นไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งดีและเป็นประโยชน์กับสุขภาพ เพราะไปช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL ซึ่งเป็นไขมันในหลอดเลือดตัวอันตรายหรือไตรกรีเซอไรด ์ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของความดันโลหิตสูงได ้อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีวิตามิน E สารต้านอนุมูนอิสระ (antioxidant) ที่ช่วยบำรุงผิวให้สดใสอีกด้วย


4.เมล็ดทานตะวัน
เป็นธัญพืชที่อุดมด้วยวิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่ช่วยต่อต้านริ้วรอย ชะลออายุของเซลล์ผิว จึงช่วยให้ผิวสดใส ดูยังเป็นสาวอ่อนวัย นอกจากนั้นวิตามินอียังจะช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นให้จา งลงไปได้ด้วย เพราะฉะนั้นจะกินเมล็ดทานตะวันเป็นของงว่างหรือโรยหน ้าสลัดจานโปรดก็ดีทั้งนั้นค่ะ


5.บล็อกโคลี
นอกจากจะอร่อยแล้ว บล็อกโคลียังเป็นผักที่ให้วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ซึ่งล้วนมีประโยชน์กับร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนั้นยังมีกากใยช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ปรุงให้สุกมากเกินไปเพราะค วามร้อนจะทำให้คุณค่าวิตามินต่างๆ จะหายไปหมด


6.มะเขือเทศ
เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีโดยเฉพาะระบบย่อย ที่สำคัญมีการวิจัยพบว่าการกินมะเขือเทศ (สดๆ ทั้งเปลือก) ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอ ดได้ ใครที่เคยเมินมะเขือเทศรีบเปลี่ยนความคิดด่วนค่ะ


7.เต้าหู้
เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญจากพืช จึงมีไขมันต่ำแถมแคลเซียมสูง ราคาก็ไม่แพง กินแล้วดีกับระบบย่อยอาหาร สบายท้อง นอกจากนั้นในเต้าหู้ยังมีสารที่ช่วยปรับระดับของฮอร์ โมนเอสโตรเจนในร่างกายให้สมดุลอีกด้วย


8.น้ำสะอาด
60 % ของร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบ น้ำจึงมีส่วนสำคัญเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย และด้วยความที่สำคัญอย่างนี้คุณๆ จึงควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว โดยขอย้ำว่าเป็นน้ำสะอาด ไม่ใช่น้ำหวาน น้ำอัดลม

โรคหัวใจขาดเลือด หมายถึงภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบอุดตัน หรือเกร็งตัวอย่างแรง หัวใจจะขาดออกซิเจน และสารอาหารจนทำให้หัวใจหยุดทำงาน โรคนี้มักเกิดกับผู้ สูงอายุ แต่ก็พบได้ในวัยกลางคนเกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ดังนั้น จึงควรป้องกันกันตั้งแต่อายุยังน้อย

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้คือ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย และความเครียด

อาหารกับโรคหัวใจขาดเลือด

การปรับพฤติกรรมการกินมีความสำคัญต่อโรคหัวใจขาดเลือด ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีรสหวานจัดเค็มจัดเครื่องดื่มที่มีรสหวาน แอลกอฮอล์ นอกจากนี้ต้องงดสูบบุหรี่ รวมทั้งความเครียด และเพิ่มการออกกำลังกาย

อาหารที่ควรกินสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด

- นมพร่องมันเนย
- อาหารประเภทเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อปลา
- ผักต่าง ๆ เช่น ผักบุ้ง ผักคะน้า ฟักเขียว ตำลึง
- ผลไม้ต่าง ๆ เช่น ส้มเขียวหวาน กล้วยน้ำว้า มะละกอ สับปะรด
- ไขมันจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว

อาหารที่ไม่ควรกินสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด

อาหารที่มีไขมันสูง เช่น พวกไขมันสัตว์ หนังเป็ด หนังไก่ นม เนย ไข่แดง อาหารที่ปรุงจากกะทิ และน้ำมันมะพร้าว มันสมอง อาหารรสจัด เช่น รสหวานจัด พวกขนมหวานต่าง ๆ และกาแฟ